สสว. จับมือร่วมกับ 4 ศูนย์แห่งความเป็นเลิศ จาก มจพ. มช. มข. และ มอ. เปิด “โครงการปั้นดาว ปี 2563” เดินหน้าพัฒนาเชิงลึก แบบครบวงจร ให้ผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจทั่วประเทศทุกระดับไม่น้อยกว่า 180 ราย ตั้งเป้าปั้นผู้ประกอบการดาวรุ่งได้ไม่น้อยกว่า 60 ราย คาดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท
ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า โครงการปั้นดาวเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 โดยได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตัวทางธุรกิจได้แบบกระโดด โดยนำร่องจากวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดกาฬสินธุ์และแม่ฮ่องสอน ที่ใช้วัตถุดิบหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิตสินค้าหรือบริการจนได้อัตลักษณ์ของตนเอง และกลุ่มวิสาหกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้หรือประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ เช่น กลุ่ม Startup และกลุ่มสินค้าศักยภาพในตลาดต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายตัวเกิดเป็นโครงการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในปี 2562
ครั้งนี้ สสว.ร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรจัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศ จำนวน 8 แห่งทั่วประเทศ ทำการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งทั้งด้านเกษตรและธุรกิจชุมชน เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11.45 เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 317 ล้านบาท
“ปี 2563 สสว.จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต่อยอด โครงการปั้นดาว ปี 2563 ขยายพื้นที่ดำเนินงานให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดูแลพื้นที่ครอบคลุม 26 จังหวัด ในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง และภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เน้นพื้นที่ 17 จังหวัด”
“ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 20 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับผิดชอบใน 14 จังหวัด ในภาคใต้” นายวีระพงศ์กล่าว
ผอ.สสว. กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มุ่งเน้นการดำเนินงานพัฒนาผู้ประกอบการเชิงลึก แบบเข้มข้น ครบทุกด้าน ซึ่งคาดจะสามารถพัฒนาต่อยอดผู้ประกอบการและวิสาหกิจทุกระดับจำนวน 180 ราย เกิดผู้ประกอบการดาวรุ่งไม่น้อยกว่า 60 ราย ที่สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้แบบก้าวกระโดด สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ประมาณ 40 ล้านบาท
นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือก จะได้รับการอบรมหลักสูตรต่อเนื่อง 3 วัน ประกอบการด้วย การอบรมเชิงลึก พร้อมที่ปรึกษาจุดประกายความคิด และ อบรมเชิงปฏิบัติ 4 ด้าน การฝึกทักษะเพิ่มมูลค่า ลดความสูญเสีย ช่องทางการตลาดออนไลน์ และการประเมินศักยภาพตนเอง และเลือกพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองแบบเชิงลึกได้อีก 1 ด้าน เช่น การพัฒนาหรือสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ การออกแบบ การใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า ลดความสูญเสีย ลดค่าใช้จ่าย พัฒนาตราสินค้า สื่อการตลาด มาตรฐานการต่างๆ เป็นต้น ก่อนนำเข้าสู่การทดลองตลาดในช่วงเดือนกันยายน 2563
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการปั้นดาว ปี 2563 ได้ทาง FacebookPage : Osmep สสว.
จรัญ ชุ่มเงิน รายงาน