เลขาธิการ ส.ป.ก. เผยเร่งกำหนดรูปแบบจัดสรรสิทธิ์ ที่ดิน 682 ไร่ฟาร์มไก่ “ปารีณา” ไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด คงส่วนที่มีประโยชน์ไว้ อนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำกินแบบแปลงรวมตามนโยบายใหม่ของรมช. ธรรมนัส
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องของส.ป.ก. เร่งประชุมตรวจสอบทั้งข้อกฎหมายในการนำที่ดิน 682 ไร่ เลขที่ 109 หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีมาเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ ควบคู่กับหารูปแบบที่เหมาะสมในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรตามนโยบายของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ย้ำว่า ในการอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของส.ป.ก. ต้องจัดทำระบบสาธารณปโภคและส่งเสริมอาชีพให้ด้วย ไม่เช่นนั้นผู้ได้รับสิทธิ์อาจไม่สามารถอยู่อาศัยและใช้ที่ดินประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ. ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
สำหรับที่ดิน 682 ไร่นี้ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐส่งมอบทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ส.ป.ก. แล้ว ซึ่งส.ป.ก. จะพัฒนาพื้นที่โดยนำนโยบายการส่งเสริมการทำเกษตรแบบรวมกลุ่ม การตลาดนำการเกษตรมาเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร เตรียมนำแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) มาสำรวจว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเหมาะสำหรับทำการเกษตรประเภทใด
เบื้องต้นพบว่า มีสภาพแห้งแล้ง เหมาะสมที่จะปลูกพืชใช้น้ำน้อย ปลูกพืชอาหารสัตว์ และทำปศุสัตว์ ดังนั้นจึงกำลังประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดเขตกาการใช้ประโยชน์ในพื้นที่แปลงนี้เช่น แปลงปลูกพืช แปลงเลี้ยงสัตว์ แปลงที่อยู่อาศัย และแปลงสำนักงาน ทั้งนี้การจัดที่ดินจะใช้รูปแบบ “แปลงรวม” มาทำเป็นต้นแบบ อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ได้จะคงไว้สำหรับทำเป็นสำนักงานสหกรณ์การเกษตร
ในส่วนโรงเลี้ยงไก่ หากจะส่งเสริมเกษตรกรทำปศุสัตว์จะเก็บไว้ ส่วนที่ไม่ต้องการเป็นความรับผิดชอบของ น.ส. ปารีณาในการรื้อถอนออก เมื่อจัดรูปแปลงและมีแผนการส่งเสริมอาชีพเรียบร้อยแล้วจึงจะพิจารณาเกษตรกรที่มีคุณสมบัติตามกฏหมายส.ป.ก. ให้เข้าทำกินร่วมกัน
ทั้งนี้ สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดขณะนี้คือ การปรับปรุงสภาพพื้นที่ส.ป.ก. ที่จัดสรรสิทธิ์ไปแล้วและที่ยึดคืนมาตามคำสั่งหัวหน้าคสช. กรณีถือครองเกิน 500 ไร่ ซึ่งจะเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและส่งเสริมอาชีพเพื่อให้อยู่อาศัยและทำกินได้อย่างมั่นคง โดยจะเป็นการลดปัญหาการขายเปลี่ยนมือให้นายทุนไปประกอบกิจการอื่นที่มิใช่การเกษตรหรือการครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายส.ป.ก. กำหนดไว้
ขณะเดียวกันได้ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีตรวจสอบที่ดินในเขตอำเภอสวนผึ้งซึ่งมีข้อร้องเรียนว่า นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของน.ส.ปารีณาครอบครองรวมเนื้อที่กว่า 600 ไร่ว่า อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือไม่ หากใช่ รมช. ธรรมนัสสั่งให้ตรวจสอบการครอบครอง ถ้าพบการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจะยึดคืนเช่นเดียวกัน
จรัญ ชุ่มเงิน รายงาน