กรมชลทั่วปท.เจาะพื้นที่ขาดน้ำ เร่งช่วยปชช.แจกน้ำกินนำ้ใช้

“อธิบดีกรมชลฯ”กำชับสำนักงานชลประทานทั่วประเทศ ระดมช่วยเหลือประชาชน พื้นที่ขาดแคลนน้ำกินใช้ อย่างเร่งด่วนหลังแนวโน้มภัยแล้งส่อเค้าลุกลามหนัก

13ก.พ.63/ ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่มีแนวโน้มหรือกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเร่งด่วน โดยในขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ให้การช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัดด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือการอุปโภคบริโภคจำนวน 52 เครื่อง และยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้อีก 148 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 9 คัน และเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ พร้อมเข้าช่วยเหลือได้ทันที

ขณะที่สถานการณ์น้ำในจังหวัดชัยภูมิ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ ปัจจุบัน (12 ก.พ. 63) มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 42 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่าง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 9 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 34 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 28 ล้าน ลบ.ม. พบว่ามีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่าง อยู่จำนวน 7 แห่ง

ส่วนจังหวัดชัยภูมิได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว จำนวน 16 อำเภอ 1,645 หมู่บ้าน สำหรับพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำดิบสำหรับการผลิตประปามี 2 สาขา ได้แก่ การประป่าส่วนภูมิภาคสาขาภูเขียว และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเกษตรสมบูรณ์ กรมชลประทาน จึงวางแผนจัดสรรน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนห้วยกุ่ม ลงแม่น้ำพรม-เชิญ เพื่อเติมน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา

อย่างไรก็ตามนอกจากเร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำแล้ว ยังเน้นย้ำให้โครงการชลประทานทุกพื้นที่ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ลดการสูบน้ำไปใช้ในกิจกรรมอื่น เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่จำกัดสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคเท่านั้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ใช้น้ำอย่างประหยัด ปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนอย่างไม่ขาดแคลน

“ผมได้สั่งการและกำชับเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานทั่วประเทศเตรียมตัวให้มีความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน เพื่อที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำทันทีที่มึการร้องขอ เพื่อให้ทุกพื้นที่มีน้ำอุปโภคบริโภคไม่ขาด ตามนโยบายของรัฐบาล”นายทองเปลว กล่าว

ขณะที่นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกลทั่วประเทศ ปฏิบัติตามนโยบายของท่านอธิบดีกรมชลประทานอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆแล้วโดยสำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 16 x 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ในพื้นที่ตำบลจันทิมา อำเภอลานกระบือ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งทำการสูบน้ำจากคลองชลประทาน ส่งไปยังอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้ผลิตน้ำประปาให้กับ อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร นอกจากนี้ยังสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ ขาด 6,000 ลิตร และรถบรรทุก 10 ล้อ ติดเครน เพื่อนำน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่า 70 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านบุ่งผลำ หมู่ 7 ตำบลน้ำกุ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนในพื้นที่   อีกทั้ง ได้น้ำเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าทำการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมถึงการขุดลอกคลอง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำได้มากขึ้น เพื่อให้การลำเลียงน้ำไปช่วยสนับสนุนแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาในพื้นที่ต่างๆ ได้เต็มศักยภาพ อาทิ บริเวณแม่น้ำน้อย จังหวัดพระนครศีอยุทธยา บริเวณคลองระบายน้ำที่ 10 พื้นที่ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี บริเวณคลองระพีพัฒน์แยกใต้ พื้นที่ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ คลอง 13 สาย กลาง พื้นที่ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ พื้นที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม บริเวณคลองบางเหลง พื้นที่ตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ สำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในด้านการสนับสนุนน้ำผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้

จรัญ ชุ่มเงิน รายงาน