ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กล่าวว่า การเป็นข่าวในโลกโซเชียลของกลุ่มชาวพุทธ โดยอ้างถึงประกาศกรมการศาสนา เรื่องงดจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ (วันพระ) ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2563 โดยอ้างถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ลงวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนานั้น
หากพิจารณาแล้วจะเห็นว่าเป็นการประกาศที่สร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างศาสนา โดยมีการกำหนดเพียงศาสนาพุทธเพียงศาสนาเดียวหรือไม่อย่างไร ในทางกลับกันต่างศาสนานั้นยังสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาได้
อีกทั้งการกำหนดระยะเวลาที่นานเกินกว่าเหตุไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 โดยกำหนดไว้นานจนเกินไปกว่า 6 เดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นเชื้อไวรัสโควิด19 อาจจะสามารถมียารักษาหายแล้วก็เป็นได้ อีกทั้งการใช้ประโยคที่กำกวมว่า
“กรมการศาสนาจึงของดการจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ” นั้นยังสร้างความสับสนในหมู่ชาวพุทธว่าเป็นการประกาศบังคับใช้ในข้าราชการของกรมการศาสนาหรือชาวพุทธทั้งประเทศ หากบังคับประชาชนห้ามดำเนินกิจกรรมทางศาสนาจะเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามสิทธิ์ของรัฐธรรมนูญกำหนด
“เราการสวดมนต์ร่วมกันที่ผ่านมา ชาวพุทธจะมีมาตรการความปลอดภัย โดยกำหนดมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมไว้อยู่แล้ว มีการกำหนดระยะห่าง 2 เมตร ซึ่งประชาชนในขณะนี้ต่างมีความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย สวมเฟสชิว รวมถึงแว่นตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ตนจึงเห็นว่าควรมีการทบทวนหนังสือฉบับนี้ หากเปิดสมัยประชุมกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ตนจะทำหนังสือเชิญอธิบดีกรมการศาสนา มาชี้แจงทันที “ ดร.เพชรวรรต กล่าว
จรัญ ชุ่มเงิน รายงาน