นิ่วในถุงน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดี

มีกันแทบทุกคนรักษาก่อนป่วยได้ด้วยธรรมชาติบำบัด — โรคของถุงน้ำดี ถุงน้ำดีกับท่อน้ำดีเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับตับของเรา ตับมีหน้าที่หลายประการ หน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งของตับคือสร้างน้ำดี แล้วส่งออกมาทางท่อน้ำดี น้ำดีที่ออกมาจากตับจะเป็นน้ำดีเจือจาง ร่างกายจะเก็บน้ำดีไว้ที่ถุงน้ำดี ถุงน้ำดีมีหน้าที่ทำให้น้ำดีมีความเข้มข้นขึ้น

เมื่อใดก็ตามที่เรากินอาหารมัน ๆ เข้าไป ถุงน้ำดีจะปล่อยน้ำ…ดีออกมาคลุกเคล้ากับอาหาร ทำให้ไขมันแตกตัวเป็นหยดเล็ก ๆ พร้อมที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหน้าที่ของน้ำดีก็คือย่อยไขมันที่เรากินเข้าไปนั่นเอง

หากถุงน้ำดีไม่สามารถทำให้น้ำดีเข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม การย่อยไขมันก็จะยากลำบากขึ้น ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง เรอมาก และคลื่นไส้ เป็นต้น น้ำดีของเราจะเจือจางลงในกรณีดังต่อไปนี้

อายุเพิ่มมากขึ้น การทำงานของถุงน้ำดีมีประสิทธิภาพลดลง น้ำดีก็จะไม่เข้มข้นเท่ากับตอนที่เรายังเป็นหนุ่มสาว ส่วนมากมักจะพบในคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ในกรณีนี้เกิดขึ้นได้เป็นปกติ ดังนั้นหากคุณมีอายุมากกว่า 40 ปี และมีอาการท้องอืด เรอมาก ฯลฯ ดังที่กล่าวมาแล้ว ให้รู้ไว้ว่า นั่นคืออาการเสื่อมสมรรถภาพของถุงน้ำดี จงทำใจยอมรับเสีย และไม่ควรกินอาหารไขมันสูง หากลองงดน้ำมัน ไขมัน นมวัว เนย กะทิ ลองงดของทอด อาหารผัดดูสัก 1 สัปดาห์ ใครที่มีอาการท้องอืดแน่น ส่วนมากมักจะทุเลาลงได้เอง

ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง บางครั้งถุงน้ำดีก็อักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ บางครั้งอาการอักเสบมักจะกำเริบได้ ถ้าอาการถุงน้ำดีอักเสบกำเริบ มักจะเกิดอาการไข้สูง หนาวสั่น ท้องอืด เฟ้อ คลื่นไส้มาก บางครั้งเจ็บบริเวณสะบักขวา เมื่อกินยาแก้อักเสบบางครั้งจะหายไปได้เอง แต่ก็มักจะกำเริบได้อีก เมื่อถุงน้ำดีอักเสบบ่อยครั้งเข้า มันก็จะไม่สามารถทำให้น้ำดีที่ไหลเข้ามาเข้มข้นขึ้น การย่อยไขมันก็จะมีปัญหา

นิ่วในถุงน้ำดี อาการของนิ่วในถุงน้ำดีก็คืออาการเดียวกันนั่นแหละคือท้องอืด แต่บางครั้งหากก้อนนิ่วมันเล็ก และตกลงมาอุดตันในท่อน้ำดี บางครั้งคุณก็อาจจะปวดท้องรุนแรงขึ้นมาเป็นพัก ๆ ได้ และบางครั้งหากมีอาการอักเสบร่วมด้วย คราวนี้แหละคุณก็อาจจะมีไข้สูงและหนาวสั่น

การตัดถุงน้ำดีออก จะทำให้น้ำดีของคุณเจือจางตลอดเวลา เพราะคุณจะไม่มีถุงน้ำดีคอยทำให้น้ำดีเข้มข้นอีก ใครที่ผ่าตัดถุงน้ำดีแล้วจะมีอาการท้องอืดแน่นเฟ้อเสมอ

บางครั้งเมื่อเอกซ์เรย์พบนิ่ว หมอมักจะแนะนำให้ตัดเอาถุงน้ำดีออก สมัยนี้ผ่าตัดถุงน้ำดีเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แค่เจาะรูที่หน้าท้อง 3 รูก็ได้แล้ว อาการแทรกซ้อนก็ไม่มาก

แต่ที่เรามักจะไม่เข้าใจก็คือ การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกไม่ได้แปลว่าอาการท้องอืด แน่น อาหารไม่ย่อยจะหายไป การผ่าตัดเอานิ่วออกเป็นการป้องกันการอักเสบของถุงน้ำดีต่างหาก ดังนั้นหลาย ๆ คนผ่าตัดถุงน้ำดีแล้วอาการก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

บอกให้ก็ได้ว่า หากคุณเป็นโรคของถุงน้ำดีแล้ว จะผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดก็ตาม หากไม่เปลี่ยนอาหาร ยังคงกินอะไรที่มัน ๆ เยิ้ม ๆ เช่นเดิม อาการที่เป็นอยู่จ้างก็ไม่หาย

อาหารที่เหมาะกับโรคของถุงน้ำดีได้แก่

1. อาหารไทยแท้ ๆ ที่ไม่มีไขมันเลย
อาหารไทยดั้งเดิม ไม่มีไขมัน คนไทยไม่มีอาหารประเภททอด ผัดหรอก อาหารไทยแท้เป็นอาหารจำพวกแกงป่า แกงส้ม ต้มยำ น้ำพริก ยำ ลาบ ส้มตำ อะไรทำนองนี้ คนไทยเราเพิ่งมาหัดกินน้ำมันเมื่อสมัยอยุธยาตอนกลางเท่านั้น เมื่อเราค้าขายกับจีนแล้วคนจีนเอาหมูมาเลี้ยงในเมืองไทย ตอนนั้นเองที่เรามีอาหารประเภทผัดและทอดกินแบบคนจีน คนไทยมากินกะทิเอาสมัยอยุธยาตอนปลายนี่เอง เมื่อเราคบกับแขกแล้วเห็นแขกกินกะทิ เราก็เลยปรับเปลี่ยนอาหารของเราให้มีกะทิบ้าง
ดังนั้นหากไม่อยากให้น้ำดีที่เจือจางไปแล้วมีปัญหาในการย่อยไขมัน ก็ลองงดอาหารทอด ผัด กะทิ นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมทั้งหมด ครีมเทียม ลองหันมากินแกงส้มต้มยำ ฯลฯ ดูสัก 1 สัปดาห์ คุณจะพบว่าอาการต่าง ๆ ที่เป็นอยู่จะดีขึ้นเอง

2. กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง
ในเนื้อสัตว์ทุกประเภท แม้แต่เนื้อแดง ๆ ที่มองไม่เห็นไขมันเลย ก็มีไขมันแทรกอยู่ทั้งสิ้น ถ้าไม่อยากให้เป็นภาระของน้ำดี ควรกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง โดยให้กินวันละไม่เกิน 1 ฝ่ามือของตัวเอง นั่นแปลว่าคุณจะต้องหันมากินอาหารไทยที่ใช้เนื้อสัตว์แต่น้อย เช่นแกงส้มที่ใช้เนื้อปลา หรือกุ้งนิด ๆหน่อย ๆ ต้มยำที่มีเห็ดปน และไม่ใช่ต้มยำน้ำข้นที่ใส่กะทิหรือนมสดลงไป ซึ่งไม่ใช่ต้มยำดั้งเดิมของไทยเราเลย

3. กินอาหารน้อย ๆ แต่บ่อยมื้อ
การย่อยอาหารในรายที่เป็นโรคของถุงน้ำดี ควรกินอย่าให้อิ่มมากนัก แต่ไปเพิ่มมื้อเบรกเอา จะทำให้อาการท้องอืดเฟ้อ หายไปได้เร็วกว่า
ลองปรับอาหารดูเอาเองก่อน ถ้าอาการหายไปไม่หมดค่อยใช้ยาช่วยย่อย หรือจะปรับระบบย่อยด้วยวิธีอื่น เช่นการฝังเข็ม หรือใช้สมุนไพร ก็แล้วแต่

ยกตัวอย่างเมนูอาหารที่ไม่ใช้น้ำมันเลย เหมาะกับคนเป็นโรคของถุงน้ำดี เผื่อว่าจะได้เป็นแนวทางในการเลือกอาหารในชีวิตประจำวัน คือ ยำมะเขือยาวกุ้งสด แกงอ่อมปลา ต้มยำไก่ใส่เห็ด ข้าวอบหมูย่างหม้อดิน เป็นต้น

เครดิต: พญ.ลลิตา ธีระสิริ

ข้อมูลเสริมจากชีวอโรคยา: ในปัจจุบันเรามีปัจจัยการใช้ชีวิตและกินอาหารที่เป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีกันแทบทั้งสิ้น หลายคนไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีนิ่วในถุงน้ำดี จนสะสมไว้มากถึงขั้นออกอาการปวดจนทนไม่ได้ ต้องไปให้หมอผ่าตัดถุงน้ำดีทิ้ง ดูแลตัวเองก่อนป่วยด้วยการล้างพิษตับ-ถุงน้ำดี โดยวิธีธรรมชาติ จะช่วยให้ท่านไม่ต้องไปตัดถุงน้ำดีทิ้ง ชีวอโรคยา เปิดคอร์สล้างพิษตับตามหลักสูตรของสันติอโศก เดือนละ 2 ครั้ง สนใจกรุณาให้อีเมล์ไว้ที่ช่องคอมเม้นท์ได้นะคะ
เครดิต: พญ.ลลิตา ธีระสิริ / ชีวอโรคยา