บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร เผยผลประกอบการปี 2566 ทุบสถิติ รายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) 2,919 ล้านบาท โต ขึ้นจากปีก่อนถึง 27% โดยในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ กว่า 1,028 ล้านบาท เทียบเป็น 81% YoY และ 31% QoQ ซึ่งมีปัจจัย หลักมาจากกลยุทธ์ Direct-to-Consumer และการเจาะกลุ่มตลาด อาหารสัตว์เลี้ยง พร้อมตั้งเป้าเปิด Bamboo Mart 12 สาขาในลอนดอน ซึ่งล่าสุดมีการเข้าเจรจาพื้นที่ โดยมีโมเดลร้านชุงลี (Chuang Lee) ที่ เป็น Cash&Carry มาปรับใช้ในสเกลที่เล็กลง หวังกระจายไปตามจุด ยุทธศาสตร์การค้า เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจสู่ตลาด ต่างประเทศ และสร้างแบรนด์ร้านสะดวกซื้อเอเชียที่ได้รับการยอมรับใน ระดับสากล
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF เผยถึงการ ดำเนินงานในปีที่ผ่านมาว่า NRF ได้ใช้ 4 กลยุทธ์หลักในการ บริหารธุรกิจให้เติบโต จนสามารถทำ All Time High ได้อย่างน่า ประทับใจ ได้แก่
- เน้นธุรกิจหลักที่เป็นจุดแข็งของการเติบโต โดยใช้ประโยชน์ จากแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับของบริษัทฯและการดำเนินงานในระดับสากลที่เล็งเห็นถึงพฤติกรรมการบริโภค ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 35% ของรายได้จากที่น้อยกว่า 30% ในปีก่อนหน้า
- เสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจ Direct-to-Consumer ด้วยการพัฒนา แพลตฟอร์มของ NRF เพื่อรุกตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียในประเทศ อังกฤษ โดยสามารถสร้างรายได้ถึง 855.89 ล้านบาท
- ขยายโอกาสด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน Bamboo Mart Limited ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศอังกฤษ ที่กำลังจะเข้าระดมทุน IPO ในตลาด NASDAQ ในปี 2024 นี้
- เพิ่มจุดแข็งในการแข่งขัน ด้วยการลงทุนในโครงสร้างด้านไอที พัฒนาระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ขององค์กร สร้างความโปร่งใสและน่าเชื่อถือ เสริมสร้างศักยภาพ องค์กร รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2024 และอนาคต
นอกจากนี้ NRF ยังเปิดเผยอีกว่า ในปี 2567 จะให้ความสำคัญ กับธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจซอสที่มี การขยายฐานการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ในทุก ๆ ปี รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์ที่มีแผนเพิ่มการผลิตจาก 1,800 ตัน ต่อเดือน เป็น 4,800 ตันต่อเดือน เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินชีวิตของ คนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
มากไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำศักยภาพการเติบโตของการ ขยายธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าเอเชีย (Asian Grocery Store) ด้วยการ เดินหน้ารุกแผนขยายสาขา แบมบู มาร์ท (Bamboo Mart) ในกรุง ลอนดอน ที่เป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม Direct-to-Consumer ที่ตั้งเป้า ขยาย 12 สาขา ด้วยการดึงศักยภาพโมเดลแห่งความสำเร็จอย่างร้าน ชุงลี (Chuang Lee) มาประยุกต์ใช้ในสเกลที่เล็กลง 50% เพื่อเพิ่ม โอกาสทำกำไรมากขึ้น ซึ่ง แบมบู มาร์ท สาขาปัจจุบันมีรายสูงถึงได้ 417 ล้านบาท ( 9.22 ล้านปอนด์) คิดเป็นอัตรากำไรราว 38 ล้านบาท ( 8 แสนปอนด์)
กลยุทธ์การขยายสาขาครั้งนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง นำ เสนอสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด อาหารแห้ง วัตถุดิบปรุงอาหาร ของใช้ในบ้าน และสินค้าเอเชียอื่น ๆ ครบครัน ตอบสนองความ ต้องการของผู้บริโภคชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ในลอนดอน เพื่อขับเคลื่อน บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ และ คาดว่าจะมีศักยภาพสามารถทำรายได้ราว 50% ของรายได้สาขา ปัจจุบัน ทั้งนี้ธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าเอเชียมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อ เนื่อง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากจำนวนประชากรชาวเอเชียในลอนดอนเพิ่ม มากขึ้น ความนิยมในอาหารและวัฒนธรรมเอเชีย และความสะดวกใน การเข้าถึงสินค้าเอเชีย เป็นต้น