BLC ผนึกกำลังพันธมิตร Nichi-Iko บริษัทยาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายยาคุณภาพสูง

บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ส่งบริษัทในเครือ บริษัท บางกอกดรัก จำกัด  เข้าบรรลุข้อตกลงในการได้รับสิทธิ์จำหน่ายยาแผนปัจจุบันของบริษัทนิชิอิโคะ หรือ Nichi-Iko ผ่านช่องทางร้านขายยา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าเพิ่มการเข้าถึงยาคุณภาพดี พร้อมมุ่งเน้นจำหน่ายยาด้วยมาตรฐานระดับสากล ในราคาที่จับต้องได้ให้แก่ผู้ป่วยชาวไทย รุกสร้างการเติบโตผ่านการ Synergy โดยใช้ความเชี่ยวชาญตลาดยาในประเทศไทยของ BLC ผสานรวมกับนวัตกรรม และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น เล็งเพิ่มขนาดพอร์ตผลิตภัณฑ์ยาต่อเนื่อง เร่งขยายตลาดรุกสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญขององค์กร คือ การสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือ Alliance เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

ล่าสุด บริษัท บางกอกดรัก จำกัด หรือ BDC ภายใต้กลุ่มบริษัท BLC ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับบริษัทนิชิอิโคะ หรือ Nichi-Iko ในการได้รับสิทธิ์จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ผ่านช่องทางร้านขายยาแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านทีมการตลาดและทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย มาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ในระยะแรกมุ่งเน้นการจัดจำหน่ายกลุ่มยาลดไขมันในเลือด ยาป้องกันและรักษาโรคหอบหืดระยะยาว ยาลดความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะชนิดหยอดตา เป็นต้น และมีแผนจะขยายพอร์ตสินค้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่รอขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเพื่อจัดจำหน่ายอย่างน้อย 5-10 รายการ เพื่อวางจำหน่ายภายใน 5 ปี ทั้งนี้ บริษัท Nichi-Iko จะยังเป็นผู้จำหน่ายในช่องทางสถานพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน และ คลินิกแพทย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับสิทธิ์จัดจำหน่ายในช่องทางร้านขายยาแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในอนาคต  ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ตลอดจนโอกาสในการเสริมพลังความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี และยกระดับมาตรฐานการผลิตผ่านโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานระดับสากลของ BLC รวมทั้งช่วยเพิ่มการลงทุนในประเทศมากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาคุณภาพดีของผู้ป่วยชาวไทยและในภูมิภาค รวมทั้งจะช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมยา

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตจากความร่วมมือในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้จัดตั้งทีมดำเนินธุรกิจเพิ่มอีก 1 กลุ่ม ประกอบด้วยทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มกราคม 2567 เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

สำหรับ บริษัท Nichi-Iko ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสามัญชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มุ่งเน้นภารกิจสำคัญคือสนับสนุนคุณภาพชีวิต สุขภาพและความสุขของผู้คนทั่วโลก จึงได้ขยายธุรกิจมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2014 ที่จะเป็นฐานของธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยในประเทศไทย มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยาลดไขมันในเลือด ยาป้องกันและรักษาโรคหอบหืดระยะยาว ช่วยบรรเทาอาการเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ยาลดความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะ ชนิดหยอดตา และยารักษาโรคมะเร็งปอด ซึ่งมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีมาตรฐานระดับสากล GMP/PICS และยังมีเทคโนโลยีในการผลิตเพื่อช่วยในเรื่องการติดตามความปลอดภัย เช่น การนำเทคโนโลยี laser printing ลงบนเม็ดยาที่มีความปลอดภัยในการรับประทาน ทำให้บนเม็ดยามีเครื่องหมายที่บ่งชี้ว่าเป็นยาอะไร และมีเลขแสดงความแรงของยา ตลอดจนเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ป่วย เช่น การปรับแผงยาแบบ unit dose มีรอยประ เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งเม็ดยาแบบพกพา การพัฒนาขวดยาหยอดตาให้เป็นเหลี่ยมมุม ลดการกลิ้งกระเด็นของขวดยาที่อาจหลุดมือผู้ป่วยตกพื้น เป็นต้น

“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี BLC ดำเนินธุรกิจด้วยจุดมุ่งหมายที่จะสร้างสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนทุกภาคส่วน การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นบริษัทยาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Nichi-Iko ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการผลิตที่ทันสมัย รวมกับความเชี่ยวชาญในตลาดยาของประเทศไทยของ BLC จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงยาคุณภาพดี มีมาตรฐานระดับสากล ในราคาที่เหมาะสมให้กับประชาชนชาวไทย เพื่อสร้างความมั่นคงทางสุขภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว” ภก.สุวิทย์ กล่าว