Cloudflare เผยเทรนด์อินเทอร์เน็ตยอดนิยมประจำปี 2567

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 16 ธันวาคม 2567 – Cloudflare, Inc. (NYSE: NET) บริษัทชั้นนำด้านการเชื่อมต่อคลาวด์ ได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่ 5 Year in Review ที่สำรวจข้อมูลเชิงลึกของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกและเทรนด์ด้านความปลอดภัยในปี 2567 พร้อมการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

อินเทอร์เน็ตเป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมต่อทั่วโลก ช่วยเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญและบริการต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนชีวิตประจำวัน เราต่างพึ่งพาอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นแกนหลักของสังคมปัจจุบัน ตั้งแต่การใช้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตคน เปิดโอกาสให้ชุมชนได้ติดต่อกับผู้แทนที่ได้รับเลือกตั้งและลงทะเบียนเพื่อโหวตคะแนนเสียง หรือการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีทั่วโลก รายงานประจำปี 2567 ของ Cloudflare แสดงให้เห็นว่าทุกปี เมื่อผู้คนและอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มขึ้นตาม (โดยปีนี้เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) และก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาความสามารถของอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

แมทธิว พรินซ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cloudflare กล่าวว่า “เราพึ่งพาอินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลา ทว่าหลายคนอาจยังมองว่ามันเป็นเพียงแค่การรวมกันของหน้าเว็บเท่านั้น แต่แท้จริงอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ทุกที่ กลืนเข้าไปในทุกกิจกรรมประจำวันของชีวิตสมัยใหม่ ตั้งแต่วิธีการที่เราใช้โต้ตอบและเชื่อมต่อถึงกันบนโซเชียลมีเดีย การใช้ตู้เย็นและเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ การเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งผ่านแอปเรียกรถ การเชื่อมต่อกับธนาคาร และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการโต้ตอบทั้งหมดเหล่านี้ที่เรามักมองข้ามไปโดยไม่ตั้งใจนั้นเบื้องหลังล้วนเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และ Cloudflare ก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่มีเปอร์เซ็นต์การใช้งานจำนวนมาก ในฐานะหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก Cloudflare ได้นำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมด้านการใช้งาน คุณภาพโดยรวม และการเชื่อมต่อทั่วทั้งเว็บ

ข้อมูลสำคัญในปี 2567 ได้แก่:

  • บริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยม: Google ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่สามติดต่อกัน ตามด้วย Facebook (อันดับ 2), Apple (อันดับ 3) และ TikTok (อันดับ 4) ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2566 อย่างไรก็ตาม WhatsApp ได้ติดเข้ามาใน 10 อันดับแรกของบริการยอดนิยมทั่วโลกเป็นครั้งแรก
  • บริการ Generative AI ยอดนิยม: Codeium, Claude และ CoPilot เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกของบริการ Generative AI ยอดนิยม (โดยอยู่ในอันดับ 3, 5 และ 7 ตามลำดับ) ขณะที่ OpenAI ยังคงรักษาอันดับหนึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน
  • บริการเกมยอดนิยม: ผู้บริโภคเกมผลักดันให้ Steam ติดอันดับ 5 บริการยอดนิยมเป็นครั้งแรก ในขณะที่ Minecraft เข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกในปีนี้ ขณะเดียวกัน Roblox ยังครองอันดับ 1 เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
  • อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด: อุตสาหกรรมเกมและการพนันกลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของผู้โจมตีทั่วโลก แซงหน้าภาคการเงินซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่ถูกโจมตีมากที่สุดในปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ก่อน Super Bowl ในสหรัฐอเมริกา
  • การล่มของอินเทอร์เน็ตที่ตรวจพบ: มากกว่าครึ่งหนึ่งของการล่มของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเป็นผลมาจากการปิดกั้นโดยรัฐบาล มักเป็นการตอบสนองต่อการประท้วง ความไม่สงบของพลเรือน หรือแม้แต่เพื่อป้องกันการทุจริตในการสอบ ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ เช่น โมซัมบิก อิรัก ซีเรีย บังกลาเทศ เซเนกัล ปากีสถาน และประเทศอื่น ๆ
  • ทราฟฟิกที่เป็นอันตราย: อินเทอร์เน็ตไม่ได้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 6.5% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกถูกระงับในฐานะที่อาจเป็นอันตราย เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากปี 2566
  • AI Bots ที่ต้องจับตามากที่สุด: AI Bots และ Crawler ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อต่าง ๆ แม้ว่า Bytespider (ByteDance) และ ClaudeBot (Anthropic) จะมีการใช้งานมากที่สุด แต่ปริมาณการใช้งานโดยรวมของทั้งสองก็ค่อย ๆ ลดลงตลอดทั้งปี

เดวิด เบลสัน หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกที่ Cloudflare กล่าวว่า “Cloudflare Radar เปิดตัวในปี 2563 เมื่อเราได้เห็นผลกระทบอย่างรุนแรงของการระบาดใหญ่ที่ส่งผลต่อวิธีการที่เราใช้งานอินเทอร์เน็ต และตระหนักถึงความสำคัญของการที่ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ต้องเข้าถึงได้สำหรับทุกคน รายงานประจำปีนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Radar ในการทำให้ข้อมูลของ Cloudflare เป็นสาธารณะ ด้วยการนำเสนอหน้าต่างสู่เทรนด์และรูปแบบอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้ทุกคนร่วมสำรวจได้ง่าย ๆ”

ข้อมูลนี้ได้มาจาก Cloudflare Radar ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีที่เปิดให้ทุกคนสามารถดูเทรนด์และข้อมูลเชิงลึกทั่วโลกบนอินเทอร์เน็ต โดย Radar รวบรวมข้อมูลมาจากเครือข่ายทั่วโลกของ Cloudflare (ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมมากกว่า 330 เมืองใน 120 กว่าประเทศ) โดยเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนจาก Cloudflare’s 1.1.1.1 public DNS Resolver ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายเป็นวิธีที่รวดเร็วและเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Cloudflare’s Year in Review โปรดดูแหล่งข้อมูลด้านล่างนี้: