จากกรณีรถทัวร์นำเที่ยว หมายเลขทะเบียน 30-1097 นครปฐม เสียหลักตกเกาะกลางถนนพุ่งชนต้ นไม้ บริเวณถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 1 ตำบลป่าเว อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 22 ราย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 8 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่ งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ได้ตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย พร้อมทั้งติดตามรายงานความเสี ยหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติเหตุ กลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็ กทรอนิกส์ รวมทั้งลงพื้นที่ อำนวยความสะดวกด้านการประกันภั ยให้กับครอบครัวของผู้ประสบภั ยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่ วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กั บครอบครัวของผู้เสียชีวิ ตและบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิ ภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน 30-1097 นครปฐม จัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองกรณีเสี ยชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาท ต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารั กษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ รถยนต์คันเกิดเหตุ ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัยจำกัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยกรมธรรม์ให้คุ้มครองต่ อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุ คคลภายนอก 600,000 บาทต่อครั้ง สำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่ วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ร.ย.01) ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 38 คน ๆ ละ 50,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล (ร.ย. 02) จำนวน 50,000 บาทต่อคน และประกันตัวผู้ขับขี่ (ร.ย. 03) 950,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับการติดตามค่าสิ นไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะนี้ผลคดีอยู่ระหว่างการสื บสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้ ประสบอุบัติเหตุที่เสียชีวิต จำนวน 5 ราย จะได้รับความคุ้ มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย โดยผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับค่ าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกั นภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 500,000 บาท กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมั ครใจ (ประเภท 3) กรณีความคุ้มครองต่อความเสี ยหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก 500,000 บาท และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ าย (อุบัติเหตุส่วนบุคคล) จำนวน 50,000 บาท รวมเป็นเงินที่ทายาทจะได้รั บรายละ 1,050,000 บาท ในส่วนของผู้บาดเจ็บที่รักษาตั วอยู่ที่โรงพยาบาล สำนักงาน คปภ. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้ าไปอำนวยความสะดวกและรับรองสิ ทธิค่ารักษาพยาบาลกั บโรงพยาบาลโดยตรง โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ ายค่ารักษาตามสิทธิแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างบูรณาการร่วมกั บสมาคมประกันชีวิ ตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิ ตในเหตุการณ์ครั้งนี้มี การทำประกันภัยเพิ่มเติ มนอกจากนี้อีกหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภั ยก็จะได้รับสิทธิตามสัญญาประกั นภัยที่ระบุไว้ทุกประการ