บอลลูนลมร้อนหลากสีสัน ลอยเด่นที่เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี ด้าน“สิงห์ปาร์ค”จัดด้วยวันนี้-17กุมภาจังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 ที่เมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี ดร.ณพลเดช มณีลังกา นายกสมาคมการบินนภารักษ์ และเลขานุการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม (นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์) ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว“ดร.ปิง ณพลเดช มณีลังกา 李冰阳 ”ระบุว่า

วันนี้เดินทางมาถึงเมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี เห็นภาพการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวเต็มเครื่องบิน ทุกไฟท์บิน แม้หิมะจะตกหนักแต่คนจำนวนมากก็มุ่งสู่เมืองนี้ ด้วยเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงาม นักท่องเที่ยวตรงมาเพื่อกิจกรรมหลักคือ มาลอยบอลลูนลมร้อน (Hot Air Balloon) ที่รับความนิยมเป็นกิจกรรมที่ได้ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและเปิดมุมมองใหม่ในการชมทัศนียภาพที่สวยงามจากมุมสูง จากความน่าท้าทายนี้บอลลูนจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการผจญภัย (Adventure) และการค้นพบที่ไม่เหมือนใคร เมืองนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางที่พัฒนาการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นต้นแบบในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) และคุณภาพ

ดร.ณพลเดช มณีลังกา

ส่วนตัวผมคิดว่าจะนำเสนอเรื่องราวความสำเร็จของบอลลูนในตุรกี ปัจจัยที่ทำให้ตุรกีประสบความสำเร็จ การเปรียบเทียบกับประเทศไทย รวมทั้งข้อเสนอแนะสำหรับประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนและการท่องเที่ยวเชิงการบิน (Aviation Tourism) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

บอลลูนตุรกีจึงเป็นความสำเร็จที่ทั่วโลกต้องจับตา ตุรกี โดยเฉพาะเมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองปามุกกาเล (Pamukkhale) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการขึ้นบอลลูนลมร้อน ภาพบอลลูนหลากสีสันที่ลอยอยู่เหนือภูมิประเทศ (Landscape) ที่แปลกตาของคัปปาโดเกีย ซึ่งเต็มไปด้วยหินรูปทรงประหลาดจากการกัดเซาะของธรรมชาติ ได้กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของบอลลูนตุรกี

1.ภูมิประเทศที่โดดเด่น (Unique Landscape) เมืองคัปปาโดเกียมีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและการกัดเซาะ ทำให้เกิดหินรูปทรงแปลกตา หุบเขาลึก และปล่องภูเขาไฟ การขึ้นบอลลูนที่นี่จึงเป็นประสบการณ์ที่หาที่เปรียบไม่ได้

2.สภาพอากาศที่เอื้ออำนวย (Favorable Weather Conditions) เมืองคัปปาโดเกียมีสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการขึ้นบอลลูนเกือบตลอดทั้งปี ด้วยลมสงบและทัศนวิสัยที่ดี

3.การลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Investment and Infrastructure Development) โดยรัฐบาลตุรกีลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่น สนามบิน ถนน โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวก

4.การกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) ประเทศตุรกีกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบินบอลลูนที่เข้มงวด มีการตรวจสอบบริษัทบอลลูน นักบิน (Pilot) และอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ

5.การตลาดและการประชาสัมพันธ์ (Marketing and Promotion) ประเทศตุรกีทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ งานแสดงสินค้าท่องเที่ยว และร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

ความสำเร็จของบอลลูนในตุรกีสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในปี 2019 ก่อนโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 500,000 คนขึ้นบอลลูนที่คัปปาโดเกีย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

การเปรียบเทียบกับประเทศไทย

ประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนเช่นกัน มีภูมิประเทศที่สวยงามหลากหลาย เช่น เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย แต่การท่องเที่ยวด้วยบอลลูนในไทยยังไม่แพร่หลาย

ข้อจำกัดของบอลลูนในประเทศไทย

1.ขาดการประชาสัมพันธ์ (Lack of Promotion) การท่องเที่ยวด้วยบอลลูนในไทยยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ ทำให้คนไม่ทราบถึงศักยภาพ

2.ขาดมาตรฐานความปลอดภัย (Lack of Safety Standards) ยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นสากล ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัย

  1. ข้อจำกัดด้านกฎหมาย (Legal Restrictions) ด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการบิน และการขึ้นบอลลูนในไทยยังไม่ชัดเจนและอาจเป็นอุปสรรค ยึ่งโคมลอยที่ลอยที่เเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือยังต้องควรสนับสนุนและแก้กฎหมายให้สามารถรองรับได้

4.ขาดการลงทุน (Lack of Investment) ยังไม่มีการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ

ข้อเสนอแนะสำหรับประเทศไทย

แนวคิดของผมเห็นว่า เพื่อให้ไทยพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนและการท่องเที่ยวเชิงการบินให้สำเร็จ มีข้อเสนอดังนี้ครับ

1.เรียนรู้จากตุรกี (Learn from Turkey) ศึกษาและนำบทเรียนจากตุรกีมาปรับใช้ โดยเฉพาะด้านมาตรฐานความปลอดภัย การตลาด และโครงสร้างพื้นฐาน

2.กำหนดมาตรฐานความปลอดภัย (Establish Safety Standards) กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นสากล ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ

3.ส่งเสริมการลงทุน (Promote Investment) สนับสนุนให้เอกชนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์ และบุคลากร

4.ประชาสัมพันธ์เชิงรุก (Proactive Promotion) ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ

5.พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ (Develop Products and Services) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย เช่น เทศกาลบอลลูน แพ็คเกจท่องเที่ยว บริการถ่ายภาพ

  1. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการบิน (Promote Aviation Tourism) พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงการบินรูปแบบอื่นๆ เช่น เครื่องบินเล็ก เฮลิคอปเตอร์ พารามอเตอร์
  2. สร้างความร่วมมือ (Build Collaboration) สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน
  3. พัฒนาบุคลากร (Develop Human Resources) อบรมบุคลากร เช่น นักบิน ช่างซ่อมบำรุง มัคคุเทศก์
  4. ปรับปรุงกฎหมาย (Improve Laws) ทบทวนและปรับปรุงกฎหมายให้ชัดเจนและเอื้อต่อการพัฒนา
  5. สร้างความตระหนัก (Raise Awareness) สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนและการท่องเที่ยวเชิงการบิน

 

อาจกล่าวได้ว่า การท่องเที่ยวด้วยบอลลูนในตุรกีเป็นตัวอย่างความสำเร็จของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experiential Tourism) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ ประเทศไทยมีศักยภาพ แต่ต้องวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ เรียนรู้จากตุรกีและประเทศอื่นๆ ผมคิดว่าหากไทยทำตามข้อเสนอแนะได้ จะพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนและการท่องเที่ยวเชิงการบินให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปัจจัยแห่งความสำเร็จของตุรกีคือ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ การลงทุน มาตรฐาน และการตลาดจากเนื้อหาและ รายละเอียดในข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า ไทยยังมีช่องว่างในการพัฒนาอีกมาก

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมคิดว่า ไทยมีศักยภาพ หากวางแผนและดำเนินการดี ก็มีโอกาสสำเร็จ การเรียนรู้จากตุรกีและปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของไทยคือกุญแจสำคัญ การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน ทั้งนี้การมีกฎหมายที่ชัดเจนและเอื้อต่อการพัฒนา การสร้างความตระหนักให้คนเห็นความสำคัญก็มีส่วนช่วยอีกทาง ผมจึงอยากจะเห็นทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ไทยจะพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนและการท่องเที่ยวเชิงการบินที่จะทำให้เกิดความสำเร็จได้ครับ

ทั้งนี้ ขอชื่นชม เทศกาลบอลลูนนานาชาติที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Singha Park Chiangrai International Balloon Fiesta 2025” จะเริ่มขึ้น ณ “สิงห์ปาร์ค” อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 – 17 กุมภาพันธ์ 2568 ปีนี้จะมีบอลลูนจากประเทศต่างๆ มาร่วมงานกว่า 30 ลูก ถือเป็นเทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ผมขอชื่นชมครับแม้จะมีจำนวนบอลลูนไม่มากเท่าตุรกี แต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นโดยภาคเอกชน ที่ภาครัฐและภาคประชาชนควรเข้ามาร่วมมือกันสนับสนุนครับ

https://www.facebook.com/share/1FimDyhnLH/?mibextid=wwXIfr

หยกดำ ส่องเขียว รายงาน