SMEsต้องไปต่อหลังโควิด-19 เพิ่มช่องทางการตลาดใน-ต่างประเทศ

ดร.ศุภชัย แก้วศิริ รองประธานอาวุโสสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) และประธานโครงการ SMEs Smart Province
สภาเอสเอ็มอีผนึกหน่วยงานพันธมิตร ผลักดันโครงการ SMEs Market เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย เชื่อมโยงตลาดให้ SMEs ทั้งในประเทศและต่างประเทศหลังวิกฤตโควิด-19
ดร.ศุภชัย แก้วศิริ รองประธานอาวุโสสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) และประธานโครงการ SMEs Smart Province ของสภาเอสเอ็มอีเปิดเผยว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาและคาดว่าจะผ่านพ้นไปในไม่ช้านี้ สภาเอสเอ็มอีได้วางแนวทางที่จะช่วยเหลือ SMEs ในช่วงหลังโควิด-19 ด้านการตลาดโดยเชื่อมโยงช่องทางตลาดเอาไว้เบื้องต้น 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) การซื้อขายระหว่างจังหวัด ผ่านประธานสภาเอสเอ็มอีจังหวัด 2) การค้าชายแดน (นำร่องด่านถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์) และ 3) การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศมุสลิมและยุโรป นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาหารือกับอีกหลายหน่วยงานทั้งการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งสินค้าเป้าหมายที่เป็นที่ต้องการของตลาด ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค”
“โครงการ SMEs Market นับเป็นส่วนหนึ่งของ SMEs Smart Province Model ที่สภาเอสเอ็มอีพัฒนาขึ้นมาเพื่อประสานความร่วมมือแบบบูรณาการทุกภาคส่วนจากระดับจังหวัด โดยนำร่องร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการติดตามระบบการเงิน การคลัง และระบบเศรษฐกิจ ในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงงานต่างๆ ที่จังหวัดสุรินทร์ (สุรินทร์โมเดล)” ดร.ศุภชัย กล่าวเสริม
SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ SMEs Market ลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://montivory.formstack.com/forms/thaismessurvey_copy
#ThaiSMEsCouncil #สภาเอสเอ็มอี #SMEs #เอสเอ็มอี #SMEsSmartProvince #PostCOVID19 #SMEsMarket
WC รายงาน