กรมวิชาการเกษตร ต้อนผู้ประกอบการขนส่งผลไม้ไปจี
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีกรมวิชาการเกษตรมีคำสั่งด่วนที่สุดให้ระงับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (PC) สำหรับการส่งออกผลไม้ทางบกไปจีนของด่านตรวจพืชนครพนมเป็นการชั่วคราวและให้ด่านตรวจพืชมุกดาหารเป็นหน่วยงานออกใบ PC เพียงแห่งเดียว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นนั้น เพื่อต้องการลดความเสี่ยงการทำผิดข้อตกลงเรื่องเส้นทางการขนส่งของผู้ประกอบการ เนื่องจากที่ผ่านมาจีนได้แจ้งเตือนถึงปัญหาคุณภาพสินค้า การไม่ทำตามเงื่อนไขการนำเข้า และการเปิดตู้สินค้าระหว่างการขนส่งผ่านประเทศที่สาม
ทั้งนี้ ฝ่ายจีนเริ่มตั้งข้อสังเกตว่ามีการขนส่งผลไม้ผ่านเส้นทาง R12 ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งแห่งใหม่จากจังหวัดนครพนมเข้าสู่ด่านโหย่วอี้กวนของจีน ซึ่งถือว่าฝ่ายไทยไม่ทำตามข้อตกลงในพิธีสาร เนื่องจากเส้นทาง R12 ยังไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายจีนเพราะยังไม่มีพิธีสารมารองรับ ทำให้มีการแจ้งเตือนเพื่อขอให้ไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จีนจะมีคำสั่งระงับการนำเข้าสินค้าจากบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในพิธีสาร ซึ่งหากสถานการณ์ร้ายแรงกว่านั้นมีความเป็นไปได้ว่าฝ่ายจีนอาจระงับการนำเข้าผลไม้จากไทยที่ส่งออกทางบกผ่านประเทศที่สามทั้งหมด ซึ่งความเสียหายจะเกิดขึ้นกับผลไม้ไทยอย่างประเมินค่าไม่ได้
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ด่านตรวจพืชมุกดาหารถือเป็นด่านตรวจพืชที่มีความพร้อม และตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลเช่นเดียวกับด่านตรวจพืชนครพนม โดยผลไม้ที่ผ่านการตรวจสอบที่ล้งในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดชุมพรจะถูกปิดซีลและขนส่งไปยังด่านตรวจพืชมุกดาหาร เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของเอกสารกับเบอร์ตู้เบอร์ซีล โดยจะไม่มีการเปิดตรวจตู้สินค้าอีก และการออกใบ PC ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ทำให้สามารถออกใบ PC ได้กว่า 400 ฉบับต่อวัน สามารถรองรับปริมาณการส่งออกผลไม้ไปจีนตามเส้นทาง R9 ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งกรมวิชาการเกษตรยังอำนวยความสะดวกในการส่งออกอย่างเต็มที่ด้วยการให้ด่านตรวจพืชทุกแห่งสามารถออกใบ PC ได้เหมือนกับด่านตรวจพืชมุกดาหาร แต่ผู้ประกอบการต้องขนส่งผลไม้ไปจีนตามเส้นทาง R9 ตามข้อตกลงในพิธีสารเท่านั้น
ภายใต้การผลักดันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ไทยได้รับอนุญาตจากกระทรวงศุลกากรของจีน (GACC) ให้นำเข้าผลไม้ได้เป็นจำนวนถึง 22 ชนิด โดยทั้งสองฝ่ายได้มีข้อตกลงที่เรียกว่า“พิธีสาร” ระหว่างกันหลายฉบับ หนึ่งในนั้นคือ “พิธีสารการส่งออกผลไม้ไปจีนทางบกตามเส้นทาง R9” ที่กำหนดให้รถบรรทุกสินค้าของไทยต้องวิ่งตามเส้นทาง R9 จากจังหวัดมุกดาหารเข้าสู่ด่านโหย่วอี้กวนของจีน แต่ปัจจุบันได้มีเส้นทางใหม่คือเส้นทาง R12 จากจังหวัดนครพนมเข้าสู่ด่านโหย่วอี้กวนของจีนเช่นกัน ซึ่งหากนับระยะทางจากจุดเริ่มต้นในการขนส่งที่ล้งผลไม้ในจังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นจุดที่ผลไม้ถูกบรรจุเข้าตู้คอนเทนเนอร์และปิดซีลไปจนถึงด่านโหย่วอี้กวนของจีนจะพบว่าระยะทางทั้งหมดที่ใช้จริงต่างกันไม่ถึง 200 กิโลเมตร ส่วนระยะเวลาในการขนส่งต่างกันไม่ถึง 5 ชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่ส่งผลต่อคุณภาพของผลไม้แต่อย่างใด
กรมวิชาการเกษตรเล็งเห็นที่ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า ในฐานะที่เป็นองค์การอารักขาพืชแห่งชาติ (NPPO) ที่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชนภาพรวมของประเทศในการส่งออกผลไม้จึงจำเป็นต้องออกคำสั่งดังกล่าวโดยด่วนแต่ก็เป็นคำสั่งเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้กรมวิชาการเกษตร และ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้เร่งเจรจากับ GACC เพื่อขอให้ยอมรับการส่งออกผลไม้ไปจีนผ่านเส้นทาง R12 และจะติดตามผลการพิจารณาของจีนอย่างใกล้ชิด
“ขอให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้าใจและให้ความร่วมมือกันเพื่อรักษาการส่งออกผลไม้ไปจีนอย่างยั่งยืนต่อไป โดยได้มอบหมายให้ ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่ด่านตรวจพืชนครพนมเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมร่วมกันในการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงในพิธีสาร โดยขอยกเลิกการออกใบรับรองไปสุขอนามัยพืชชั่วคราวที่ด่านตรวจพืชนครพนมไปก่อนจนกว่าการเจรจาของไทยและจีนจะสำเร็จและได้รับการอนุญาตจากจีน” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว