กรมวิชาการเกษตร เตรียมป้อนพืชไร่พันธุ์ใหม่ใช้น้ำน้อย “ถั่วลิสงขอนแก่น 9” สร้างรายได้ให้เกษตรกรช่วงวิกฤตภัยแล้ง โชว์ลักษณะเด่นโดนใจเกษตรกรครบวงจร ทั้งขนาดเมล็ดโต ฝักดก ผลผลิตสูง แถมปลิดฝักง่าย เผยปี 63 เตรียมความพร้อมเมล็ดพันธุ์ไว้รองรับความต้องการเกษตรกรแล้ว
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ถั่วลิสงเป็นพืชตระกูลถั่วที่ปลูกได้ตลอดปี เป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวค่อนข้างสั้น ปลูกได้ทั้งต้นฤดูฝน ปลายฤดูฝน และฤดูแล้ง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของรายได้ให้เกษตรกร และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยมีพื้นที่ปลูกที่สำคัญคือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซี่งผลผลิตถั่วลิสงสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งใช้เป็นแหล่งอาหารโปรตีน ต้นใช้เลี้ยงสัตว์และปรับปรุงบำรุงดิน
ประเทศไทยนิยมใช้ถั่วลิสงเพื่อการบริโภคโดยตรง หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งในกลุ่มถั่วลิสงใช้เมล็ดนี้จัดกลุ่มตามขนาดเมล็ด คือ กลุ่มเมล็ดโต มีน้ำหนัก 100 เมล็ดมากกว่า 60 กรัม พันธุ์มาตรฐานในกลุ่มนี้ ได้แก่ ขอนแก่น 6 กลุ่มเมล็ดปานกลางมีน้ำหนัก 100 เมล็ด 35 -60 กรัม พันธุ์มาตรฐานในกลุ่มนี้ ได้แก่ ไทนาน 9 และขอนแก่น 5 โดยในกลุ่มที่มีขนาดเมล็ดปานกลางเกษตรกรต้องการพันธุ์ที่มีฝัก และเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งเหมาะกับการบริโภค ซึ่งพันธุ์มาตรฐานที่นิยมปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์ไทนาน 9 ยังมีขนาดเมล็ดค่อนข้างเล็ก และถึงแม้จะมีพันธุ์ขอนแก่น 5 ทีมีขนาดเมล็ดโตกว่าพันธุ์ไทนาน 9 แต่ก็ยังสามารถที่จะปรับปรุงพันธุ์ถั่วลิสงให้มีขนาดโตและให้ผลผลิตที่สูงขึ้นได้อีก
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร จึงได้พัฒนาพันธุ์ถั่วลิสงในกลุ่มที่มีขนาดเมล็ดปานกลางเพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีขนาดเมล็ดโตขึ้น และให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์มาตรฐานไทนาน 9 และ ขอนแก่น 5 เพื่อพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำให้เกษตรกรได้เลือกปลูก โดยได้ดำเนินการคัดเลือกพันธุ์ในปี 2540 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น และแปลงทดลองห้วยหลวง อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี และประเมินผลผลิตทั้งในแปลงทดลองและแปลงของเกษตรกร ตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ จนได้ถั่วลิสงพันธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการใช้ชื่อพันธุ์ว่า “ถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 9” ซึ่งเป็นพันธุ์ที่คัดได้จากการผสมระหว่างสายพันธุ์ KKFC4000-1 กับพันธุ์ไทนาน 9
ถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 9 มีลักษณะเด่น คือ ขนาดเมล็ดโตกว่าพันธุ์มาตรฐานที่อยู่ในกลุ่มขนาดเมล็ดปานกลาง โดยมีน้ำหนัก 100 เมล็ดเท่ากับ 52.8 กรัม ซึ่งขนาดเมล็ดโตกว่าถั่วลิสงพันธุ์ไทนาน 9 ที่มีน้ำหนัก 100 เมล็ด 44.2 กรัม และขอนแก่น 5 จำนวน 48.5 กรัม รวมทั้งถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 9 ยังให้ผลผลิตฝักแห้ง 264 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าถั่วลิสงพันธุ์ไทนาน 9 ที่ให้ผลผลิตฝักแห้ง 247 กิโลกรัมต่อไร่ และขอนแก่น 5 ให้ผลผลิตฝักแห้ง 250 กิโลกรัมต่อไร่
“จากการสัมภาษณ์เกษตรกรพบว่า ส่วนใหญ่ยอมรับในคุณสมบัติของถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 9 มากกว่าพันธุ์ไทนาน 9 โดยลักษณะที่เกษตรกรยอมรับมากที่สุด คือ ผลผลิตและการงอก รองลงมาเป็น ขนาดฝัก และการเก็บเกี่ยว การติดฝัก ขนาดเมล็ด และการปลิดฝัก โดยรวมเกษตรกรชอบพันธุ์ขอนแก่น 9 ที่ให้ผลผลิตสูง ฝักดก ขนาดฝักและเมล็ดโต และปลิดฝักง่าย ซึ่งถั่วลิสงพันธุ์ขอนแก่น 9 นี้ถือได้ว่าเป็นงานวิจัยและปรับปรุงพันธุ์พืชของกรมวิชาการเกษตรที่ตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเพื่อทดแทนการทำนาปรังในช่วงสถานการณ์ภัยแล้งที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เนื่องจากถั่วลิสงจัดอยู่ในกลุ่มพืชไร่ที่ใช้น้ำน้อย โดยในปี 2563 นี้ ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น มีเมล็ดพันธุ์คัด เมล็ดพันธุ์หลัก และเมล็ดพันธุ์ขยายเพื่อให้เกษตรกรใช้ปลูกในฤดูแล้งได้คิดเป็นพื้นที่ปลูกจำนวนประมาณ 50 ไร่ ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว