เกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปี 2562 มีรายได้รวม 571,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 8.3 และมีกำไรสุทธิ จำนวน 22,343 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 6.8 ทั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทและบริษัทย่อยในการรองรับการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าและบริการตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2562 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 124,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากการขายของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจแม็คโครและธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ
ทั้งนี้ เป็นผลจากความสำเร็จของแผนกลยุทธ์การขยายสาขาและการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม โดยมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ จ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
สำหรับผลประกอบการที่เติบโตของบริษัท มาจากวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและสังคมอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมกับสถาบันการเงิน 7 สถาบัน ให้บริการรับฝาก-ถอน ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น , การให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ All Café และการกำหนดเป้าเปิดสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น 700 สาขาต่อปี
นอกจากนี้ ซีพี ออลล์ ยังได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Company ประจำปี 2562 ซึ่ง ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มประเภทค้าปลีกสมัยใหม่ ถือเป็นการรักษาตำแหน่งบริษัทในใจคนไทยประเภทค้าปลีกสมัยใหม่ 2 ปีติดต่อกัน (2561-2562) หลังจากขยับจากอันดับ 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 จากการสำรวจเมื่อปีก่อนหน้า โดยก่อนหน้านี้ เซเว่น อีเลฟเว่น ก็เพิ่งได้รับรางวัล “Thailand’s Most Admired Brand & Why We Buy 2019” ประเภทร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ในฐานะแบรนด์ที่น่าเชื่อถืออันดับ 1 ประจำปี 2562 ซึ่งจัดโดยนิตยสารแบรนด์เอจเช่นกัน
เช่นเดียวกับ ผลการประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ประจำปี 2019 หรือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) หรือ DJSI โดย S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำด้านองค์กรความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลกของกลุ่ม World Index ประเภท Food & Staples Retailing Industry โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI กลุ่ม World Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 (2018-2019) และกลุ่ม Emerging Markets Index ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 (2017-2019)
ซีพี ออลล์ ยังคงดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยปีที่ผ่านมาได้เดินหน้านโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีและผลิตผลทางการเกษตรผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นและ 24 ช้อปปิ้ง อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสนับสนุนภาคการศึกษา พัฒนาเยาวชน โดยมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาของปัญญาภิวัฒน์ฯและเครือข่าย ไปแล้วกว่า 54,000 ทุน เป็นเงินร่วมกว่า 5,100 ล้านบาทและการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการรณรงค์คนไทยลดใช้ถุงพลาสติกที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนถุงพลาสติกเป็นเงินสมทบทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 77 โรงพยาบาล ใน 77 จังหวัดไปแล้วจำนวน 134 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามปณิธานของบริษัทคือ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับทุกคน”