หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว เกจิอาจารย์ เมืองสุพรรณบุรี
เมืองสุพรรณบุรี มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในฐานะเมืองลูกหลวง สุพรรณบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และเป็นจังหวัดที่มีเกจิอาจารย์ที่ที่มีชื่อเสียงในวิชาอาคมสืบทอดกันมาครั้งแต่โบราณทั้งที่ละสังขารไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่
ขอแนะนำพระเกจิอาจารย์ที่ทิ้งไว้ในคุณงามความดีและวัตถุมงคลและเครื่องราง คือ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
พระกำแพงศอก
วัดมะนาวเดิมเป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ต.ทับตีเหล็ก ริมถนนสุพรรณ-บางสาม หน้าวัดติดริมแม่น้ำสุพรรณบุรี ประวัติ หลวงพ่อโบ้ย ท่านเกิดที่ บ้านสามหมื่น ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เกิดในปีมะโรง พ.ศ.2435 พออายุได้ 21 ปี จึงได้เข้าอุปสมบทที่ วัดมะนาว ในปี พ.ศ.2456 ได้จำพรรษาที่วัดมะนาว เริ่มศึกษาพระธรรมวินัย ภาษาบาลีและภาษาขอม ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ท่านได้จำพรรษาที่วัดมะนาวได้ 3 พรรษา
ต่อมาได้ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่น พระธรรมวินัย มงคลทีปนีมูลกัจจายนะ ภาษาบาลี และอักษรใหญ่ ที่”วัดชีปะขาว” (วัดศรีสุดาราม) ธนบุรี หลวงพ่อท่านไม่หยุดอยู่แค่นั้นได้ศึกษาต่อที่วัดอัมรินทร์โฆสิตารามเป็นเวลา 8-9 ปีแล้วจึงกลับมาทีวัดมะนาว
พิมพ์ขุนแผนบ้านกร่างคู่
ในปี พ.ศ.2466 อยู่ได้ไม่นานท่านได้เดินทางไปหา” หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค”เพื่อต่อยอดในททางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ศึกษาได้ 1 ปีกลับมาวัดมะนาว เมื่อกลับมาวัดท่านได้ปฏิบัติมุ่งบริการสังคม โดยมิหวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้นไม่รับปัจจัยทรัพย์สินเงินทอง ไม่เลือกที่รักมักที่ชังมีเมตตาธรรมแก่ทุกชนทุกชั้นวรรณะไม่ยึดติดในสมณศักดิ์ใดๆ แม้แต้ตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านตื่นเช้าครองจีวรสวดมนต์ไหว้พระจนฟ้าสาง จึงออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ เมื่อบิณฑบาตกลับมาถึงวัด ท่านจะขอให้พระภิกษุยืนเข้าแถวจากนั้นนำข้าวและอาหารที่บิณฑบาตใส่บาตรพระเป็นเช่นนี้เสมอ ฉันเช้าเสร็จก็จะออกมากวาดลานวัดเป็นกิจวัตรที่ถือปฏิบัติ
หลวงพ่อโบ้ย ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคล ในปี พ.ศ.2473 โดยให้ลูกศิษย์ไปบอกบุญเรี่ยไรวัสดุต่างๆเช่นทองเหลือง ทองแดง ขันลงหิน เชี่ยนหมาก โตก ขัน พาน ที่เป็นโลหะนำมาหลอมละลายเป็นพระเครื่อง จนเกิดเป็นโลหะที่มีสีไม่เหมือนกัน วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นเอกลักษณ์
รูปเหมือนหลวงพ่อโบ้ยเนื้อชานหมาก
หลังจากฉันเพลแล้วท่านจะเอาพระเข้ากุฏิทำการปลุกเสก วัตถุมงคลเกิดจากความบริสุทธิ์ในการสร้าง ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อโบ้ย ที่ทรงศีลธรรมและเวทย์วิทยาคม จึงทำให้ผู้ที่มีวัตถุมงคลไว้บูชาเกิดประสบการณ์ช่วยคุ้มครองป้องกันให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง
ปี พ.ศ.2479 ท่านเริ่มสร้างพระเนื้อดินเผา ในปี พ.ศ.2500 สร้างเนื้อชานหมากเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อโบ้ย พ.ศ.2508 สร้างเหรียญสี่เหลี่ยมตัดมุมและเหรียญกลมนั่งเต็มองค์ สร้างในงานผูกพัทธสีมา
ทินวงษ์ เถื่อนน้อย”ทินนี่ สุพรรณ” นักสะสมและศึกษาพระเครื่องสายสุพรรณบุรี
ส่วนเหรียญกลมครึ่งองค์สร้างในงานฌาปนกิจศพหลวงพ่อ ซึ่งท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่12 มกราคม พ.ศ.2508 สิริอายุ 73 ปี 52 ปี วัตถุมงคลของหลวงพ่อท่านทำแจกอย่างเดียวไม่ยอมรับปัจจัยจากผู้บริจาค
วัตถุมงคลของหลวงพ่อโบ้ย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครมีอานุภาพในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ด้วยความบริสุทธิ์ในสร้างจึงเป็นที่หมายปองของเหล่าผู้นิยมและศึกษา นี่เป็นอีกคนหนึ่งที่นิยมและศึกษาวัตถุมงคลของหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว คือ ทินวงษ์ เถื่อนน้อย”ทินนี่ สุพรรณ” เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรีโดยกำเนิด มีความชื่นชมพระเครื่องของเมืองสุพรรณบุรี เพราะเป็นพระบ้านเกิด ซึ่งตนนั้นมีชอบในศิลปะของรูปพรรณสัณฐานพระพุทธรูปและพระเครื่อง ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้มีความเก่าแก่มีความงดงามอยู่ในพุทธศิลป์ จึงได้เกิดความชอบครั้งเป็นเด็กโดยเริ่มต้นศึกษาพระเครื่องของพ่อที่เก็บไว้บูชาไว้บนหิ้งพระที่บ้าน และศึกษาพระเครื่องวัดใกล้บ้าน เช่น วัดธัญญะวารี หลวงพ่อเจริญ วัดดอนบัวทอง หลวงพ่อฮวด วัดคลองมะดัน หลวงพ่อโหน่ง พระกรุสุพรรณและพระเครื่องในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียง”ทินนี่ สุพรรณ” นำเสนอวัตถุมงคลของ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว เพื่อเป็นวิทยาทานเพื่อเป็นแนวศึกษารูปพิมพ์ที่หลวงพ่อท่านสร้างแจกจ่ายไว้บูชา วัตถุมงคลหลวงพ่อโบ้ย กลายเป็นวัตถุมงคลยอดนิยม พุทธคุณเด่นในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เป็นที่โจษขานของชาวสุพรรณบุรีและผู้ที่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อบูชา
เรื่อง/ภาพ โดย พรหมพิริยะ จันทร์เพ็ญ